งานวิจัยทางการแพทย์ส่วนใหญ่จะมีการเก็บบันทึกข้อมูลจำนวนมาก ไม่ว่าการวิจัยนั้นจะเป็นการศึกษารูปแบบใดก็ตาม เช่น cross-sectional study, case-control study, cohort study, clinical trial จึงต้องมีการออกแบบฟอร์มในการเก็บข้อมูลที่ดี ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ 1.ข้อมูลเพื่อการบริหาร (administrative data) คือข้อมูลที่ใช้ในการบริหารจัดการงานวิจัย เช่น ผู้ที่ดูแลผู้ป่วย, ผู้ที่รับผิดชอบการส่งข้อมูลผู้ป่วย, ข้อมูลเกี่ยวกับการส่ง material ต่างๆ ของผู้ป่วย 2.ข้อมูลเกี่ยวกับข้อบังคับในการทำการวิจัย (regulatory data) คือข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าการทำการวิจัยปฏิบัติตามข้อบังคับและตาม GCP (good clinical practice) เช่น เอกสารอนุมัติให้ทำการวิจัยจากคณะกรรมการจริยธรรมในมนุษย์, ใบยินยอมจากผู้ป่วย, คุณสมบัติของผู้ร่วมวิจัย 3.ข้อมูลงานวิจัย (research data) คือข้อมูลที่ใช้ตอบคำถามงานวิจัย ซึ่งจะแบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ ก) ข้อมูลพื้นฐานของผู้ป่วย (back¬ground data) เช่น ข้อมูลทางด้านประชากร¬ศาสตร์ (demographic data), สภาพร่างกาย (physical status), ประวัติการเจ็บป่วย (medical history) และประวัติการได้รับยา (medication) ข)ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของยา (efficacy data) ค)ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของยา (safety data) เช่น อาการไม่พึงประสงค์ (adverse event, AE) และผลตรวจทางห้อง ปฏิบัติการ Case record form หรือ case report form (CRF) คือแบบฟอร์มสำหรับบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตอบคำถามงานวิจัย ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของกระดาษ (paper CRF) หรือ elec¬tro¬nic (e-CRF) ก็ได้ CRF เป็นเหมือนแบบสอบถาม (structured questionnaire) ในงานวิจัย ข้อมูลจาก source document เช่น แฟ้มประวัติผู้ป่วย (OPD card) และใบแสดงผลจากห้องปฏิบัติการ จะได้รับการลอกมายัง CRF
. . .
Full text.
|